ราคาพาร์ คืออะไร? หุ้นแตกพาร์-รวมพาร์ มีผลต่อราคาหุ้นไหม? (อัปเดตล่าสุด)

ราคาพาร์ คืออะไร หุ้นแตกพาร์ คืออะไร

ราคาพาร์ คืออะไร? หุ้นแตกพาร์ คืออะไร? (อัปเดตล่าสุด)

หากคุณเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้น คำว่า “ราคาพาร์ (Par)” และ “หุ้นแตกพาร์” น่าจะเป็นคำที่คุณได้ยินบ่อยมาก แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก “ราคาพาร์” แบบเข้าใจง่าย พร้อมยกตัวอย่างชัด ๆ 📊


🏢 ราคาพาร์ (Par) คืออะไร?

ราคาพาร์ (Par) คือ “ราคาทุนเริ่มต้น” ที่บริษัทกำหนดไว้เมื่อต้องการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบอกถึง ทุนจดทะเบียนของบริษัท และ จำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออกมาเสนอขาย
👉 จุดสำคัญคือ ราคาพาร์ไม่ได้บอกว่าหุ้นถูกหรือแพง และ ไม่ได้บอกว่าหุ้นดีหรือไม่ดี

สูตรการคำนวณราคาพาร์:

ราคาพาร์ = มูลค่าทุนจดทะเบียน ÷ จำนวนหุ้นที่ออก

ตัวอย่าง:
บริษัท X มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท และออกหุ้นทั้งหมด 1,000,000 หุ้น
ราคาพาร์ = 10,000,000 ÷ 1,000,000 = ✅ 10 บาท/หุ้น


📌 ราคาพาร์ มีไว้ทำอะไร? สำคัญอย่างไร?

  1. 📈 บอกทุนจดทะเบียนเริ่มต้น ของบริษัทเมื่อเข้าตลาดหุ้น

  2. 📊 ใช้ดูสภาพคล่องของหุ้น ได้เบื้องต้น — หากบริษัทมีจำนวนหุ้นมาก แปลว่ามีโอกาสที่การซื้อขายจะทำได้ง่ายขึ้น

  3. 🧮 นักลงทุนสามารถนำราคาพาร์มาคำนวณหา “จำนวนหุ้นในตลาด” ได้ เพื่อประเมินความน่าสนใจของหุ้นตัวนั้น

หมายเหตุ: ราคาพาร์ไม่ได้บอกคุณภาพของบริษัท ไม่สามารถใช้ตัดสินได้ว่าหุ้นตัวนั้น “ดีหรือไม่ดี”


📉 ราคาพาร์สูง vs ราคาพาร์ต่ำ — แบบไหนดีกว่ากัน?

จริง ๆ แล้ว ไม่มีแบบไหนดีกว่ากัน เพราะราคาพาร์เป็นเพียงตัวเลขที่บอกทุนเริ่มต้น ไม่ใช่ราคาที่สะท้อนมูลค่าหรือความแข็งแกร่งของบริษัท นักลงทุนจึงไม่ควรใช้ราคาพาร์มาตัดสินการลงทุนเพียงอย่างเดียว


💥 หุ้นแตกพาร์ (Par) คืออะไร?

“หุ้นแตกพาร์” คือ การลดราคาพาร์ของหุ้นลง เพื่อเพิ่มจำนวนหุ้นในตลาด แต่ มูลค่ารวมของบริษัทไม่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่าง:

  • ก่อนแตกพาร์: ราคาพาร์ 5 บาท ราคาหุ้น 500 บาท

  • หลังแตกพาร์: ราคาพาร์ 1 บาท ราคาหุ้น 100 บาท
    ➡️ จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาต่อหุ้นลดลง นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้ามาซื้อได้ง่ายขึ้น


✅ ข้อดีของการแตกพาร์

  • เพิ่ม สภาพคล่อง ของหุ้นในตลาด

  • ทำให้ราคาต่อหุ้นถูกลง ดึงดูดนักลงทุนรายย่อย

  • เพิ่มโอกาสให้มีการซื้อขายมากขึ้น

หุ้นที่มีราคาสูงมักนิยมแตกพาร์เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น


📈 หุ้นรวมพาร์ (Par) คืออะไร?

ตรงข้ามกับการแตกพาร์ 👉 การรวมพาร์ คือการปรับราคาพาร์ให้สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นต่อหน่วยสูงขึ้น และจำนวนหุ้นลดลง
แม้มูลค่ารวมของบริษัทจะเท่าเดิม แต่สภาพคล่องจะลดลงตามจำนวนหุ้นที่ลดลง

ข้อดีของการรวมพาร์:

  • ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้หุ้นดู “มีมูลค่า” มากขึ้น

  • มักใช้กับหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 1 บาท เพื่อให้ราคาดูมีเสถียรภาพ


📚 สรุป: นักลงทุนควรรู้อะไรเกี่ยวกับราคาพาร์

  • ราคาพาร์ = ราคาทุนเริ่มต้นของบริษัท ไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น

  • หุ้นแตกพาร์ = ราคาพาร์ลดลง จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ➝ สภาพคล่องมากขึ้น

  • หุ้นรวมพาร์ = ราคาพาร์เพิ่มขึ้น จำนวนหุ้นลดลง ➝ ภาพลักษณ์ดีขึ้น

  • ราคาพาร์ไม่สามารถใช้ตัดสินความถูกหรือแพงของหุ้นได้ ต้องดูปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ร่วมด้วย


❓ คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ “ราคาพาร์”

Q: ราคาพาร์ 1 บาทดีกว่า 10 บาทไหม?
A: ไม่เกี่ยวกันเลย ราคาพาร์ไม่ใช่ตัววัดความดีหรือแย่ของหุ้น

Q: แตกพาร์แล้วราคาหุ้นจะขึ้นไหม?
A: ไม่จำเป็น ราคาหุ้นไม่ได้เพิ่มขึ้นเพราะแตกพาร์ เพียงแต่สภาพคล่องดีขึ้น

Q: นักลงทุนควรสนใจราคาพาร์ไหม?
A: สนใจในระดับ “ข้อมูลพื้นฐาน” เท่านั้น ควรโฟกัสที่งบการเงิน กำไร และการเติบโตของธุรกิจมากกว่า


📝 Meta Title (SEO):

ราคาพาร์ คืออะไร? หุ้นแตกพาร์-รวมพาร์ มีผลต่อราคาหุ้นไหม? (อัปเดต 2025)

📄 Meta Description (SEO):

ทำความเข้าใจ “ราคาพาร์” หุ้นแตกพาร์-รวมพาร์ คืออะไร ส่งผลต่อราคาหุ้นอย่างไรบ้าง? พร้อมตัวอย่างเข้าใจง่าย สำหรับนักลงทุนมือใหม่ | อัปเดตปี 2025

ความคิดเห็น